คุณเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหม?
ว่าตอนนี้คุณกำลังหนีความรักอยู่หรือเปล่า? เช่น
ไม่กล้าเปิดรับใครเข้ามาเป็นคนพิเศษ หรือกลัวที่มีความรู้สึกพิเศษกับใคร นี่คืออาการของคนที่กำลังรู้สึกกลัวที่จะมีความรัก
หรือเรียกว่า “ โรคกลัวความรัก “ นั่นเอง แต่จะมีสาเหตุใดบ้าง และแนวทางในการรักษาจะเป็นอย่างไร
ไปดูกันเลยค่ะ
Philophobia เลยแปลว่า “โรคกลัวความรัก”
เป็นโรคชนิดหนึ่งในทางจิตเวช
แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นเป็นอันตรายต่อผู้คนรอบข้าง
แต่ถ้ายังคงเป็นแบบนี้อยู่ต่อไปเรื่อย ๆ อาจจะกลายเป็นคนเก็บตัว
ไม่กล้าออกไปเจอหน้าผู้คน พยายามที่จะหนีจากสังคม อยู่ในโลกแคบ ๆ ที่มีแค่ตัวเอง
ไร้สีสัน และสุดท้ายอาจจะเครียดและกดดันจนทำให้เป็นโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย
ถ้าคุณเป็น โรคกลัวความรัก ควรยอมรับให้ได้ว่าตัวเองนั้นมีอาการกลัวความรัก
ไม่ได้เข้มแข็งอะไร แล้วก็ปรับวิธีคิดเปลี่ยนมุมมอง รู้จักที่จะยืดหยุ่น และรู้จักจัดการกับความผิดหวัง กล้าที่จะพูดเพื่อระบายปัญหากับใครสักคน
อย่าคิดไปเองว่าความรักจะมีแต่เรื่องแย่ ๆ ร้าย ๆ เหมือนที่ได้เจอ หรือได้ฟังมาเสมอไป
ลองเปิดใจ และก้าวเข้าไปหาความรักความสุขทีละนิด
หากใครที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองมีอาการกลัวความรักมาก
ๆ ควรที่จะไปปรึกษาจิตแพทย์
เพราะเป็นแนวทางการรักษาทางหนึ่ง
สาเหตุของโรคกลัวความรัก
(Philophobia)
1.มีเหตุการณ์ในแง่ลบที่ฝังใจ
2.วัฒนธรรม หรือศาสนา ที่มีข้อห้ามเกี่ยวกับความรัก ศาสนาหรือขนบประเพณีบางอย่าง
3.การล้มเหลวในความรักซ้ำๆ เจ็บปวดซ้ำๆ หรือเลิกลากันไปทุกที
4.รู้สึกว่าตัวเองหดหู่ เห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ
อาการของโรคกลัวความรัก
(philophobia)
1.กังวลทุกครั้งที่จะต้องเริ่มต้นความสัมพันธ์กับใครสักคนแบบคนรัก
2.มักจะหยุดความรู้สึกตัวเอง ห้ามใจตัวเองไม่ให้ถลำลึกที่จะจริงจังกับความรักมากจนเกินไป
3.มักจะหลีกเลี่ยงสถานที่ที่คนมีคู่นั้นชอบไปกัน
4.เหมือนจะชอบกับการอยู่คนเดียว
แต่แท้จริงแล้วเป็นการป้องกันตัวเองไม่ให้เจอกับคนที่ทำให้เรารุ้สึกหวั่นไหวต่างหาก
5.ไม่เปิดใจ ไม่เปิดโอกาสให้ใครได้เข้ามาทำให้รัก
6.มักจะประเมินความรู้สึกของคนใกล้ตัวว่าจริงใจหรือรักตัวเองมากแค่ไหน
แล้วจึงค่อยตัดสินใจมอบความรู้สึกในระดับที่เท่าเทียมกลับไป
7.เมื่อต้องเจอกับสถานการณ์หวานๆ หรือโดนรุกจีบ
อาจมีอาการทางกายภาพอย่างเหงื่อแตกร้องไห้ ใจสั่น หัวใจเต้นรัวเร็ว หายใจแรง
ชาที่มือ และเท้า อาเจียน หนัก ๆ ถึงขั้นเป็นลมเลยทีเดียว
แนวทางในการรักษาอย่างไรบ้าง?
1.ความคิดและพฤติกรรมบำบัด (Cognitive Behavioral Therapy)
นักจิตวิทยาและจิตแพทย์จะเข้ามาทำความเข้าใจกับผู้ป่วย
ชวนคุยในประเด็นที่คนไข้นั้นรู้สึกกลัว หรืออาจจะมีรูปภาพหรือคลิปวีดีโอคนรัก
การตกหลุมรัก มาประกอบการรักษา ทั้งนี้ก็เพื่อให้คนไข้มีทัศนคติที่ดีกับความรักมากขึ้น
เป็นการกำจัดความรู้สึกกลัวในเรื่องที่ไม่น่ากลัวที่ค่อยข้างได้ผลดีต่อผู้ป่วย
2.เผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัว (Exposure Therapy)
นับเป็นอีกวิธีการรักษาที่ได้ผลค่อนข้างมาก
โดยผู้เชี่ยวชาญจะจัดให้ผู้ป่วยเจอกับสถานการณ์หวาน ๆ ให้เพศตรงข้ามชวนพูดคุย
หรือให้ดูหนังโรแมนติก ฉากสุดซึ้ง
เพื่อฝึกให้ผู้ป่วยมีแรงต้านทานต่อความกลัวของตัวเองเพิ่มมากขึ้น และลดแรงกดดัน ความวิตกกังวลเมื่อเจอสถานการณ์รัก
ๆ ลงไปบ้าง
3.รักษาด้วยยา
การรักษาด้วยยาจะเป็นแนวทางเสริมสำหรับผู้ป่วยที่มีความเครียดสูง หรือมีความรู้สึกกังวลทุกครั้งเมื่อเจอกับความกลัว โดยวิธีนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยควบคุมอารมณ์และการแสดงออกของตัวเองได้ดีขึ้น
เราขอเป็นกำลังใจให้คนที่ กำลังกลัวความรัก และได้พบกับความรักดีๆ ในเร็ววันนะคะ
อ้างอิง
What
Is Philophobia, and How Can You Manage Fear of Falling in Love?